|
ดาบยาว
(Long Sword ) |
|
ดาบสั้น (กริช)
(Dagger) |
ดาบเป็นอาวุธมีดชนิดหนึ่งซึ่งใช้สำหรับ "ฟัน" หรือ "แทง" สำหรับคำนิยามที่ถูกต้องของดาบในยุคประวัติศาสตร์นั้นอาจหมายถึง "ใบมีดตรงและมีด้ามจับ" นอกจากนี้อาจยังหมายถึงอาวุธที่มีขอบเพียงด้านเดียว (BackSword)
คำว่า Sword มาจากภาษาอังกฤษยุคโบราณ swert ซึ่งมีรากศัพท์มาจาก swer ซึ่งแปลว่า "เพื่อตัด เพื่อฟัน" ในแต่ละที่จะมีคำเรียกที่แตกต่างกันไป เช่น
- แถบตะวันออกกลาง เรียก "ดาบ" ว่า "saif"
- จีน เรียก "ดาบ" ว่า "dao"
- ญี่ปุ่น เรียก "ดาบ" ว่า "katana"
ในอดีตนั้น ดาบถูกพัฒนามาตั้งแต่ยุคสำริด (Bronze Age) มันถูกพัฒนามาจากกริช (Dagger; ดาบสั้น) ได้พบหลักฐานดาบที่เก่าแก่ที่สุดซึ่งอยุ่ในช่วง 1,600 ปีก่อนคริสต์ศักราช เมื่อมาถึงยุคเหล็ก ดาบยังคงค่อนข้างสั้นและด้ามจับยังไม่พัฒนาไปไกล ใน"ยุคกลาง" ดาบถูกพัฒนาเพื่อนำมาใช้ในกองทัพโรมัน (เรีกยว่าดาบ Spatha) และเข้าสู่ยุคการพัฒนาอาวุธดาบอย่างจริงจัง
ผู้ที่ใช้ดาบเป็นอาวุธจะถูกเรียกว่า"นักดาบ" (Swordsman) ในช่วงต้น"ยุคใหม่" ดาบถูกพัฒนามาเป็นกระบี่ (Rapier) ซึ่งมีขนาดเล็กกว่าดาบ
ประวัติศาสตร์ของดาบ
ยุคสำริด (Bronze Age)
|
ดาบที่ถูกสร้างขึ้นในช่วง 1,600 ปีก่อนคริสต์ศักราช |
ในช่วงปลายสหัสวรรษที่ 3 ก่อนคริสต์ศักราชในตะวันออกกลาง "ดาบ"ถูกพัฒนามาจาก"กริช" ซึ่งต้องการให้ใบมีดยาวกว่าเดิมเท่าที่จะเป็นไปได้ ในช่วงแรกดาบทำมาจากธาตุทองแดง-สารหนู ต่อมาใช้ธาตุดีบุก-ทองแดง อาวุธดาบที่เก่าแก่ที่สุดที่เคยพบอยู่ที่ Arslantepe ในประเทศตุรกี ซึ่งมีอายุประมาณ 3300 ปีก่อนคริสตกาล อย่างไรก็ตามมันไม่ใช่ดาบที่เก่าแก่ที่สุด (มีดาบที่เก่าแก่กว่านี้ แต่ไม่เคยพบ) ดาบที่พบมีความยาวมากกว่า 60 เซนติเมตร เป็นดาบที่หายากและไม่ค่อยทำขึ้นเนื่องจากทองสัมฤทธิ์ค่อนข้างอ่อนและใบมีดสามารถบิดโค้งงอได้ง่าย ในยุคนี้ดาบยังไม่พัฒนาดาบให้แข็งแกร่งขึ้น นอกจากนี้ทองสัมฤทธิ์มักจะนำไปทำเป็นเครื่องประดับเช่นกัน
|
ดาบที่ถูกสร้างขึ้นในช่วง 1,600 ปีก่อนคริสต์ศักราช |
ด้ามจับทำจากไม้หรือทองสัมฤทธิ์ (มักจะตกแต่งเป็นลายรูปเกลียว) ด้ามจับถูกออกแบบมาเพื่อให้พอจะจับดาบได้และเพื่อป้องกันไม่ให้มือลื่นไถลไปถูกคมดาบในขณะที่กำลังฟัน ใบดาบในยุคแรกมักจะเล็กและเรียว เน้นการแทงเป็นหลัก ต่อมาใบดาบกว้างมากขึ้นซึ่งออกแบบมาเพื่อทั้งฟันและแทง
ลักษณะของใบดาบจะเป็นรูปทรงใบไม้ ก่อนจะสิ้นสุดยุคสำริด ดาบถูกแพร่กระจายไปทั่วทวีปยุโรป
|
ดาบรูปเพรช
(Sword of Goujian)
(http://benotdefeatedbytherain.blogspot.com/) |
ในช่วง
ยุครณรัฐ* เทคโนโลยีดาบทองสัมฤทธิ์ในประเทศจีนถึงจุดสูงสุด ดาบถูกทำขึ้นแบบไม่ซ้ำกัน ใช้วิธีการผลิตที่ดีกว่า เช่น การหล่อดาบขึ้น โดยใช้ส่วนผสมที่เหมาะสม ขอบของดาบจะมีส่วนผสมของดีบุกมากกว่า ซึ่งจะทำให้ส่วนนี้อ่อน และตรงส่วนกลางขอบดาบจะใช้ส่วนผสมที่มีดีบุกสูง ซึ่งทำให้ส่วนนี้มีความแข็ง นอกจากนี้ยังมีการทำดาบรูปเพรชขึ้นอีกด้วย (Sword of Goujian)
*เป็นชื่อยุคหนึ่งในประวัติศาสตร์จีนโบราณ ถัดจากยุควสันตสารท และสิ้นสุดลงเมื่อฉินฉื่อหฺวังตี้รวมแผ่นดินในปีที่ 221 ก่อนคริสตกาล เป็นผลให้รัฐต่าง ๆ ที่รบรากันได้รวมเป็นหนึ่ง คือ จักรวรรดิฉิน
ยุคเหล็ก (Iron Age)
|
Hallstatt 'C' Swords
(ดาบในช่วงต้นยุคเหล็ก) |
ตั้งแต่ศตวรรษที่ 13 ก่อนคริสตกาล เหล็กถูกนำมาใช้งานมากขึ้น ในช่วงนั้นเหล็กยังไม่ค่อยมีความแข็งแกร่งนักแม้ว่าจะมีส่วนผสมของคาร์บอนเพียงพอ เนื่องจากการขึ้นรูปโดยวิธีการทุบเหมือนทองสัมฤทธิ์ แต่เมื่อเทียบกับทองสัมฤทธิ์แล้ว ดาบที่ทำจากเหล็กจะมีคุณภาพที่ดีกว่า แต่ดาบเหล็กยังคงโค้งงอได้ง่าย ในช่วงนี้เองในกองทัพอียิปต์หันมาใช้แต่เกราะและอาวุธที่ทำจากเหล็กแม้ว่าอียิปต์จะมีอาวุธที่เป็นทองสัมฤทธิ์มากมาย
ดาบที่อยู่ในจักรวรรดิ Parthian และจักรวรรดิ Sassanian ค่อนข้างยาว (ยาวไม่เกิน 100 เซนติเมตร)
นอกจากนี้ ดาบยังถูกนำมาใช้สำหรับการลงโทษ เช่น การตัดแขน ตัดขาหรือแม้กระทั้งตัดศีรษะ อาวุธดาบเป็นอาวุธที่มีเกียรติ โดยเฉพาะสมัยโรมันซึ่งการใช้ดาบจะสงวนสิทธิไว้สำหรับชนชั้นสูง
สำหรับในยุคเหล็กนี้ การใช้ดาบที่โด่งดังมีดังต่อไปนี้
- สมัยโบราณกรีก-โรมัน
- สมัยโบราณเปอร์เซีย
- สมัยโบราณของจีน
ยุคกลาง (Middle Ages)
ดาบสมัยใหม่ (Modern Ages)
ในช่วงสุดท้ายนี้ ดาบทำหน้าที่เป็นอาวุธป้องกันตัวเองมากกว่าการใช้ในการสู้รบ ดาบมีความสำคัญลดลงอย่างต่อเนื่อง ในช่วงต้นศตวรรษที่ 19 ดาบเริ่มมีความล้าสมัย สะท้อนให้เห็นถึงการพัฒนาของปืนที่เพิ่มขึ้น
|
ดาบ Klewangs
(ก่อนปี ค.ศ. 1889) |
อย่างไรก็ตาม ดาบยังคงใช้ในการต่อสู้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในยุค
Colonial Wars เป็นการต่อสู้ระหว่างประชาชนและจักรวรรดิ Colonial ตัวอย่างการใช้ดาบอีกในสงครามคือ '
สงครามอาเจะห์' ได้มีการใช้ดาบที่มีลักษณะที่คล้ายกัยอ้อย มันพิสูจน์แล้วว่าดาบมีประสิทธิภาพมากในการต่อสู้กับกองกำลังชาวดัตช์
ผู้นำ '
Royal Netherlands East Indies Army' มักจะใช้ดาบที่มีขนาดใหญ่ หรือเรียกอีกอย่างว่า "Klewang" (ดาบมีลักษณะเหมือนดาบสมัยใหม่ของกองทัพเรือสหรัฐฯ ปี 1917) กองกำลังติดอาวุธเคลื่อนที่ได้ใช้ปืน Carbines และดาบ Klewangs เอาชนะทหารราบที่ใช้ปืนไรเฟิลได้ ตั้งแต่นั้นมาจนถึงปี 1950 กองทัพหลวงต่าง ๆ พากันชื่นชมในประสิทธิภาพของอาวุธดาบที่เรียกว่า Klewangs
ดาบอย่างต่อเนื่องในการใช้งาน แต่ถูกจำกัดมากขึ้น ดาบเป็นเครื่องแบบพระราชพิธีในข้าราชการทหารและไม่ใช่นายทหารสัญญาบัตร' ตัวอย่างเช่น กองทัพอังกฤษได้พัฒนาดาบมาใช้อย่างเป็นทางการโดยใช้กับทหารม้าในปี 1908
บรรณานุกรม
Wikipedia. (2557).
Sword. ค้นข้อมูล วันที่ 7 มกราคม 2558. จาก
http://en.wikipedia.org/wiki/Sword
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น